กำลังใจล้น “ดีเจมะตูม” เผยภาพชูสองนิ้ว หลังเข้ารักษาโควิด-19 วันที่3
เปิดไทม์ไลน์ “ดีเจมะตูม” เผยเจอเพื่อนติดเชื้อ 9 ม.ค.64
ล่าสุด ดีเจมะตูม ได้ออกมาอัปเดตอาการผ่าน คุยแซ่บSHOW ด้วยการโฟนอิน โดยเผยว่า
อัปเดตอาการหน่อย ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
“ตั้งแต่ทราบว่าตัวเองมีเชื้อโควิด ก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล จนตอนนี้เข้าวันที่3 แล้วที่อยู่โรงพยาบาล อาการเบื้องต้นที่หมอแจ้งคือ ไม่มีไข้ ไม่มีไอ ไม่มีอะไรแทรกซ้อน แล้วก็จมูกกับลิ้นยังรับรส รับกลิ่นปกติดี แล้วมีการเอ็กซเรย์ปอดไปเมื่อวาน ผลออกมาก็เป็นที่น่าพอใจ ก็คือปอดไม่ได้มีเชื้อโควิด ข้างในไม่มีจุดอะไร ปกติครับ วันนี้เมื่อตอน 11 โมง ตูมเผลอหลับไป ตื่นมามีอาการเจ็บหน้าอก ถ้าหายใจเข้าลึก ๆ แล้วจะเจ็บเสียดตรงหน้าอกนิดหนึ่ง ซึ่งตูมไม่ทราบว่ามันมาจากอะไร น่าจะนอนผิดท่าหรือเปล่าไม่รู้ ก็ต้องดูอาการต่อไปเรื่อย ๆ
มันมีอาการเบื้องต้นอะไรก่อนไหม มันถึงส่งสัญญาณให้เรารู้ว่าเราเป็นโควิด-19
“ของตูมอาการแทบไม่ออกเลย คือตูมเหมือนเป็นคนปกติคนหนึ่งที่มีผลโควิดเป็นบวก แต่ว่าไม่มีอาการไอ มีเสมหะนิดหนึ่งในลำคอ แต่ไม่ได้เป็นสีเขียว เป็นเสมหะปกติ ส่วนตัวตูมแพ้อากาศแพ้ฝุ่นอะไรอย่างนี้อยู่แล้ว ด้วยอาการเบื้องต้นจากที่ตูมรับเชื้อมาจากวันนั้น คือไม่มีอะไรเลย แต่ว่าสอบถามอาการของเพื่อนสนิทที่เขาติดมาเขาจะไม่ได้กลิ่น คือฉีดน้ำหอมไม่ได้กลิ่นน้ำหอม”
เคสที่ไม่แสดงอาการแบบนี้คุณหมอว่ายังไงบ้าง
“คุณหมอให้รอดูอาการต่อไป เพราะว่าจริงๆ ตูมรับเชื้อมายังไม่ครบ 14 วันเลย คือการที่ตูมไม่ได้ป่วยในอาทิตย์นี้ มันไม่ได้หมายความว่าอาทิตย์หน้าตูมจะไม่ป่วย มันก็เป็นไปได้ เพราะตอนนี้ในร่างกายตูมยังคงมีเชื้อโควิดอยู่ ก็คือต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดต่อไป”
คุณหมอบอกไหมว่า แนวทางการรักษาต่อไปเป็นยังไง
“แนวทางการรักษาของตูม เนื่องด้วยตูมไม่มีไข้สูง หรือว่าไม่ได้มีอาการที่น่าเป็นห่วงอะไร ก็คือยังอยู่ในเคสเฝ้าระวัง แต่ก็คือทราบว่ามีเชื้อโควิด คือตัวตูมสามารถแพร่ระบาดได้ สิ่งที่ต้องระวังเลยคือตูมจะต้องไม่สัมผัสกับมนุษย์คนอื่นเลย คือตูมต้องกักตัวอยู่ในห้อง แล้วต้องอยู่โรงพยาบาลให้ครบ 10 วัน เพื่อเฝ้าดูอาการ และต่อให้ไม่มีไข้หรือไม่มีอะไรก็ต้องอยู่ให้ครบ 10 วัน พอครบ 10 วันปุ๊บเขาก็จะตรวจหาเชื้ออีกครั้ง เพราะว่าเมื่อวานเขามีการเจาะเลือดไปเรียบร้อยแล้ว คือตรวจอย่างละเอียดเลย ถ้าเกิดเจอเชื้อก็ต้องกักตัวอยู่ต่อที่นี่อีก จนกว่าจะเป็นลบ ถ้าเป็นลบตูมไม่มีอาการแทรกซ้อน ไม่ป่วย ไม่ไข้ ตูมก็สามารถออกไปใช้ชีวิตปกติได้เลยครับ”
ตั้งแต่เข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณแม่บ้างไหม
“พูดครับ ตอนนี้คุณแม่ตูมก็อยู่ในช่วงการกักตัว เพราะว่าแม่ไปตรวจเชื้อแล้ว ตรวจพร้อมมะตูมเลย แล้วก็ผลเป็นลบ วันเสาร์นี้คือครบ 14 วัน หลังจากวันเกิดมะตูม คุณแม่ก็ต้องตรวจอีกครั้ง จริงๆคุณแม่ต้องตรวจถี่พอสมควรเลย”
คุณแม่กับ “มะตูม” ใกล้ชิดกันแค่ไหน
“ใกล้ชิดกันมากครับ ในเคสนี้ที่ตูมรับเชื้อมา เพื่อนคนที่เขาติดเขาไปพื้นที่เสี่ยงมา พูดกันตรงๆตูมก็ดีใจเพื่อนมาเซอร์ไพรส์เราวันเกิด เรามากินข้าวปกติ ไม่ได้จัดงาน แต่อยู่ดี ๆ เพื่อนมาเซอร์ไพรส์ มีการแบบกอด หอมแก้ม อะไรอย่างนี้ กับแม่ตูมไม่ได้หอม แต่คือถ่ายรูปใกล้กัน แต่ตัวคนที่เขาติด เขานั่งชิดคุณแม่มะตูมเลยครับ จริง ๆ ตอนทราบข่าวว่าเพื่อนคนนี้ติดเชื้อ ตูมตกใจแล้วตูมก็ห่วงแม่มากกว่าตัวเอง เพราะตูมรู้ว่าตัวเองไม่ติดหรอก เราไม่ได้มีอาการอะไร แต่กลัวว่าคุณแม่จะติด ปรากฎแม่ไม่ได้ติด ตัวเองติด”
มีโอกาสได้เห็นคลิปของคุณพ่อหรือยังที่สื่อไปสัมภาษณ์
“จริงๆตูมได้คุยกับคุณพ่อตั้งแต่วันที่ตูมเป็นข่าวแล้ว คุณพ่อได้มีการทักมาแล้ว ตูมไม่ได้เจอพ่อมาตั้งแต่ปีที่แล้ว คุณพ่อก็ส่งเป็นคลิปมา จริงๆตูมเพิ่งได้เห็นตอนเข้าโรงพยาบาลนี่แหละครับ (เห็นคลิปแล้วเป็นยังไงบ้าง?) จริงๆ เรารู้สึกว่าทำให้หลายๆคนเป็นห่วง ก็รู้สึกไม่ค่อยดีหรอก เอาจริงๆต้องพูดตรงๆ ตูมอาจจะดูปากเก่ง ปากดี ตูมพูดในรายการกับพี่พีเคตอนนั้นจัดรายการ เนี่ย ถ้าเกิดนอนให้ฉีดเชื้อโควิดเข้าร่างกายก็อยากจะลองทดลอง อยากรู้ว่ากับร่างกายมันจะมีผลยังไงบ้าง อยากจะลองเทสวัคซีน อยากจะลอง นู่น นี่ นั่น คือมันทำปากดีไปตอนนั้น แต่พอเอาเข้าจริงๆพอรู้ว่าตูมติด ตูมไม่ได้ห่วงเรื่องสุขภาพตัวเองเลย เพราะร่างกายตูมมันไม่มีผลอะไรเลย ตูมไม่ได้รู้สึกว่าตูมเจ็บออดๆ แอดๆ หรือทรมาน หรือต้องเข้าโคม่า แต่ว่าที่มันเศร้าแล้วมันรู้สึกหลอนจนถึงตอนนี้ก็คือ ใครจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้บ้าง ซึ่งพิธีกรคุยแซ่บก็ไปแล้ว 3 ตูมต้องยอมรับว่าตูมทำงานในวงการ แล้วมันมีคนในวงการหลายคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่ตูมติดเชื้อในครั้งนี้อย่างหนักมาก ตูมก็เลยรู้สึกไม่สบายใจ แล้วรู้สึกสำนึกผิดต่อความหละหลวมต่อสังคม ต่อทุกสิ่งทุกอย่างเลยครับ”
แต่ว่าทุกคนไปตรวจแล้วไม่มีใครติด แต่ว่าอยู่ในช่วงกักตัว เพื่อรอดูอาการ
“ตูมพยายามไม่โทษตัวเอง ตูมก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้น ตูมไม่ได้อยากให้มันเกิดกับตัวตูม แล้วก็ไม่ได้อยากให้เกิดกับตัวใคร แต่ว่าถ้ามันเกิดขึ้นมาแล้วตูมก็ได้แต่เอาตัวเองเป็นวิทยาทาน ว่าเราต้องใช้ชีวิตยังไงกับโรคนี้ แล้วเราต้องต่อสู้อะไรกับมัน ปอดเราจะปกติไหมในอนาคต คือตูมต้องรายงาน ต้องแจ้งเพื่อให้ทุกคนได้รู้ ได้ตื่นแล้วก็ระวังตัว เพราะว่าจริงๆแล้วโรคนี้ไม่ได้น่ากลัวอีกไม่นานมันจะกลายเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา แต่ ณ เวลานี้เรายังไม่ได้มีวัคซีนร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นตูมยังยืนยันคำเดิมนะครับการที่คุณได้รับเชื้อโควิดแล้วเป็นโควิดไม่ได้น่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ คุณเป็นแล้วคุณแพร่โดยที่คุณไม่รู้ตัวต่างหาก"
จากที่ไปงานวันเกิด “มะตูม” มีใครติดโควิดเพิ่มอีกไหม
“ตูมยังไม่ได้รับแจ้ง ตูมยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้างบนที่กินข้าวกันมันมี 13 คน ซึ่งตอนนี้ติดชัวร์ๆ แล้ว 2 คน มีตูมกับเพื่อน และรอผลตรวจอีก 2 คน แต่นอกเหนือจากนั้นได้รับผลตรวจแล้วว่าไม่ติด”
วันนั้นมีดาราไปไหม
“ไม่มีครับ วันเกิดตูมวันที่ 9 มกราคม ตูมมีการรับประทานอาหารค่ำบนรูฟท็อป ไม่มีคนในวงการไปเลยครับ”
ถ้าไม่มีคนในวงการบันเทิง มีเด็กเอ็นไปไหม นายแบบไหม
“ตอบไปแล้วเมื่อวาน อยากให้มีมากเลย มีแต่เพื่อนที่ตูมสนิทหมดเลย ไม่มีเด็กเอ็นฯ ไม่มีแม่เล้าครับ”
“พีเค” กับ “ชมพู่” บอกว่าไม่ต้องกังวล อยากให้ “มะตูม” ดูแลตัวเองให้เรียบร้อย ทุกคนไปตรวจแล้ว ณ ตอนนี้ไม่มีใครเป็นเลย ตอนนี้ทุกคนกักตัวอยู่ให้พ้น 14 วัน แล้วจะไปตรวจอีกครั้ง
“นี่คือสิ่งที่ตูมกังวลมากที่สุด เพราะตูมกลัวว่าตูมเป็นแบบซูเปอร์สเปรดเดอร์ในการที่เอาเชื้อมาแพร่ระบาด จริง ๆ ถ้าคนธรรมดาติดก็คือรักษาตัวปกติ เพราะว่าตูมไม่ได้เป็นคนแรกในประเทศที่ติด แต่ว่าตูมเป็นคนในวงการคนแรกของปีนี้ แต่จริง ๆ มันก็โชคดีเหมือนกันที่ตูมมาตรวจเจอร์ก่อน ไม่งั้นวันพุธที่ผ่านมาเราถ่ายรายการด้วยกัน แล้วก็ไขข้อสงสัย ทำไมตูมถึงไปตรวจ ไม่มีอาการทำไมไปตรวจ แต่ที่ตูมไปตรวจคือคนใกล้ชิดไปตรวจแล้วเขาเจอ ตูมเลยต้องไปตรวจ เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่มีอาการคุณใช้ชีวิตปกติ แต่ถ้าคนใกล้ตัวคุณ หรือว่าคุณมีอัตราความเสี่ยงในการที่จะสัมผัสคนติดเชื้อให้รีบไปตรวจ”
“มะตูม” รู้สึกยังไงที่คนพูดกันว่าเราเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์
“ก็ต้องรู้สึกแย่ มันไม่มีใครอยากเป็น ตูมพูดตรงๆนะครับ ไม่มีใครกลัวการเป็นโควิด คือจริงๆตูมไม่ได้กลัวการเป็นโควิดหรอกครับ แต่ว่าตูมกลัวการเป็นจำเลยสังคมมากกว่า คนรู้สึกว่าการเปิดเผยไทม์ไลน์ตัวเอง มันเป็นอะไรที่น่าอาย หรือว่าน่าเป็นกังวลมากกว่าการที่ร่างกายของเราจะรับเชื้อมา จริง ๆ แล้วตูมต้องยอมรับคำว่าซูปเปอร์สเปรดเดอร์ของตูม ถ้าเกิดตูมเป็นจริง ๆ ถ้าว่าถ้าภายใน 2 อาทิตย์นี้มีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้น จำนวนมหาศาลจากงานของตูม หรือจากตูม ก็เป็นเพราะความชะล่าใจ ความหละหลวมของตูมโดยที่ตูมรู้เท่าไม่ถึงการณ์ตูมก็ต้องกราบขอโทษล่วงหน้าอย่างไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ”
อยากจะบอกอะไรกับคนที่ใกล้ชิด หรือเจอในช่วงนี้
“สำหรับที่มะตูมเรียนแจ้งไปแล้ว สำหรับใครก็ตามที่สัมผัสมะตูม โดยตรง เช่น พี่พีเค มันจะมีคนเสี่ยง 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือเสี่ยงสูง ก็คือ ร่วมงานกับตูม ใกล้ชิดกับตูม เจอตูม สัมผัสตูม กลุ่มสองคือ กลุ่มเสี่ยงต่ำ คือ อาจจะไปห้างสรรพสินค้าเดียวกับตูม หรืออาจจะใช้ลิฟท์ตัวเดียวกับตูม แต่ว่าไม่ได้เจอตูมนะ นั่นก็คือกลุ่มเสี่ยงต่ำ ถ้าเกิดเป็นคนกลุ่มเสี่ยงสูง ให้ไปตรวจได้ทันที แล้วก็ตรวจฟรีด้วย แจ้งได้เลยครับ แต่คนเสี่ยงต่ำก็คือให้เฝ้าดูอาการตัวเองก่อนแล้วก็ไปตรวจ ถ้าเกิดตรวจเจอได้รับเงินสินไหมทดแทนกลับคืนมาด้วย
ตอนนี้ตรวจได้ 2 ที่ คือ 1. สถาบันป้องกันควบคุมโรค เขตเมือง สปคม. 2. ศูนย์บริการสาธารณสุขที่ใกล้บ้าน แล้วก็อ้างชื่อตูมได้เลย ไทม์ไลน์นี้มันไปชนกัน จริงๆตูมบอกกับคนทั้งคอนโดเลยว่าไปตรวจฟรีเลย เพราะตูมไม่อยากให้ใครต้องมาเสียค่าตรวจ เพราะมันก็แพง
แต่สิ่งที่ตูมอยากจะย้ำว่า ต้องไม่ประมาท ต้องไม่หละหลวมเหมือนตูมนะครับ เพราะตูมคิดว่าไม่ติดหรอก รอบนี้มันไม่ได้น่ากลัวเหมือนรอบที่แล้ว แต่จริงๆมันสามารถติดได้ง่าย และน่าจะง่ายขึ้นกว่าเดิมถ้าคุณไม่ทำตามมาตรการ เว้นระยะห่าง ตูมมีความผิดครั้งนี้คือตูมเป็นคนสาธารณะ แต่ต่อให้ตูมไม่ใช่คนสาธารณะตูมก็ไม่ควรอยู่ดี”
อ่านบทความและอื่น ๆ ( “ดีเจมะตูม” อัปเดตอาการ ยันไม่มีดารา - เด็กเอ็นฯ ร่วมงานวันเกิด 9 ม.ค.64 - pptvhd36.com )https://ift.tt/3sMxJ2w
บันเทิง
Bagikan Berita Ini
0 Response to "“ดีเจมะตูม” อัปเดตอาการ ยันไม่มีดารา - เด็กเอ็นฯ ร่วมงานวันเกิด 9 ม.ค.64 - pptvhd36.com"
Post a Comment