ถอนนหมุดข่าว : กาละแมร์ นักบุญคนบาป - ผู้จัดการออนไลน์

ถอนหมุดข่าว

กลายเป็นดรามาร้อนฉ่า สำหรับคลิปรีวิวอาหารเสริมของ กาละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ พิธีกรชื่อดัง ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง จากการรีวิวกินแล้วหน้ายก เหนียงหาย ตาเป็นสองชั้น ร่องแก้มตื้น จมูกเข้ารูป

จนมีคนร้องเรียนไปที่ องค์การอาหารและยา หรือ อย. ที่ตรวจสอบไม่นานก็ฟันฉับว่า ไม่เป็นความจริง พร้อมสั่งระงับโฆษณา และส่งเรื่องให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ไม่เท่านั้นยังมียอดนักขุด ย้อนไปเจอคลิปรีวิวที่กาละแมร์อ้างว่าในเชิงว่าอาหารเสริมของเธอนั้นมีฤทธิ์ป้องกันโควิด-19 อีกด้วย โดยอ้างไถึงครอบครัวหนึ่งชาวสมุทรสาครว่า ภรรยาทานอาหารเสริมของเธอเป็นประจำ แล้วยังให้ลูกอายุ 4 ขวบ กับ 6 ขวบกินด้วย ปรากฎว่า มีภูมิต้านทานไม่ติดเชื้อโควิด-19 จากสามีที่ไม่ยอมทานอาหารเสริม ทั้งๆที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ไม่เท่านั้นพอสามีหันมากินได้แค่ 7 วัน ก็ตรวจปรากฏว่า ไม่พบเชื้อโควิด

ทั้งกรณีอวดอ้างว่ายิ่งกินยิ่งสวย แบบที่ว่าถ้าสาวๆหันมากินอาหารเสริมของสาวแมร์กันหมด หมอศัลยกรรมคงตกงานกันเป็นแถว โรงพยาบาล คลีนิกเสริมความงามคงเจ๊งกันเป็นแถบ แล้วยังหาญกล้ามาโปรโมทเกาะกระแสโควิด-19 ที่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ติดเชื้อขึ้นมาอาจถึงเสียชีวิตอีก หรือแม้แต่โรคมะเร็ง หรือโรคซึมเศร้า เจ้าอาหารเสริมที่ว่านี่ก็บรรเทารักษาได้ เรียกว่าเป็นยาสารพัดนึกจริงๆ

งานนี้ก็เลยมีเสียงเรียกร้องให้ อย.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องจัดการให้เด็ดขาด ไม่เฉพาะกรณีกาลาแมร์ แต่ผลิตภัณฑ์อื่นๆด้วย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เพราะถือเป็นการโฆษณาเกินจริง หลอกลวงผู้บริโภคอย่างชัดเจน อย่าแค่จับปรับไม่กี่สตางค์ แล้วปล่อยให้ขบวนการนี้ไปหลอกลวงมอมเมาประชาชน ฟาดกำไรเป็นแสนเป็นล้านอีก

ด้วยมีข้อมูลว่า เฉพาะบริษัทของกาละแมร์เคยถูก อย.ดำเนินคดีมาแล้ว 7 คดี เกิดเหตุซ้ำซากเช่นนี้ ก็แสดงว่าไม่เข็ดหลาบ คงด้วยผลกำไรที่งดงามควรค่าแก่การเสี่ยงเพราะโทษปรับแค่หลักหมื่นบาท เมื่อค้นข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท พาวเวอร์ชอต จำกัด ที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของกาละแมร์ เพิ่งจดทะเบียนเมื่อเดือน มี.ค. 2562 นี่เอง
แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2562 มีรายได้รวมราว 133 ล้านบาทเศษ รายจ่าย 114 ล้านบาทเศษ เสียภาษีเงินได้ 3.7 ล้านบาทเศษ เท่ากับว่าไม่ถึงปีมีกำไรสุทธิร่วมที่แจ้งทางบัญชีเกือบ 15 ล้านบาท

แล้วไม่ใช่แค่กรณีของสาวกาละแมร์เท่านั้น ยังมีการโฆษณาขายสินค้าในลักษณะเดียวกันอย่างแพร่หลาย ทั้งถั่งเช่า หรือครีมหน้าเด้ง อาหารเสริมความงาม ทั้งหลายแหล่ ที่หลังๆตามรายการทีวี ไม่มีแอบแฝง ประกาศขายกันแบบซึ่งหน้า

ธุรกิจวงการโทรทัศน์เหมือนพระอาทิตย์อัสดง ทั้งการเพิ่มช่องทีวีดิจิทัล จนถึงยุคดิสรัปต์ที่มีสื่อออนไลน์เป็นดอกเห็ด แถมเจอวิกฤตโควิดทำเอาฟุบไปตามๆกัน รายได้จากโฆษณาที่เป็นเส้นเลือดหลักของวงการขาดแคลนหดหาย

เซเลบริตี้ที่เคยทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำก็เลยต้องพากันหาเส้นเลือดใหม่มายืดลมหายใจในช่วงปลายอายุขรรค์ของจอแก้ว เป็นสินค้าโฆษณาเกินจริง พร้อมด้วยโปรโมชันแรงๆ ค้าง่ายขายคล่องอย่างที่ว่า อาศัยความน่าเชื่อถือของพิธีกรผู้ประกาศ และความเป็นสื่อหลัก ชักจูงให้ผู้ชมผู้ซื้อหลงเชื่อว่าสรรพคุณดีจริง

น่าสนใจว่าขนาด กาลาแมร์-พัชรศรี ที่ไม่ได้ไก่กา มีชื่อเสียงเป็นพิธีกรระดับท็อปเบอร์ต้นของวงการ ไม่ใช่แค่รายได้จากงานพิธีกรรายการวาไรตี้ เกมโชว์ หรืออีเว้นท์ ยังมีผลงานเขียนหนังสือระดับเบสเซลเลอร์หลายเล่ม ยังลงมาทำมาหากินแบบไม่แคร์ขี้ปากชาวบ้าน สุ่มเสี่ยงมีคดีความโดนปรับเช่นนี้

ไม่เท่านั้นยังมีโมเดลคล้ายกันอย่างบังเอิญ ด้วยพรีเซนเตอร์สินค้าที่โฆษณากันลึ่มๆ อยู่ตอนนี้ มักมีกิจวัตรเดินสายทำบุญ เข้าวัดเข้าวา เป็นโยมอุปัฏฐากวัดดัง ลูกศิษย์เกจิมีชื่อกันแทบทั้งนั้น ทำให้ผู้ซื้อบางคนก็ทุ่มเงินอุดหนุน ทั้งงมงายในสรรพคุณเลิศเลอของสินค้า แล้วยังหวังของแถมเป็นอานิสงค์สะสมแต้มบุญไปในตัว

กาละแมร์เป็นหนึ่งในตัวอย่างของคนที่ทำตัวอินกับการทำนุบำรุงศาสนามากเป็นพิเศษ ใช้การทำบุญสร้างอิมเมจของคนดี แถมเป็นเจ้าบุญทุ่มสร้างนู้นสร้างนี้ถวายมากเข้าว่า หวังจะได้ไปนิพพาน ทั้งที่ขัดกัย

ตัดภาพมาที่ชีวิตจริง วิธีการหาเงินเพื่อเอาเงินไปทำบุญเยอะๆ กลับเข้าข่ายหลอกลวงประชาชนด้วยการโอ้อวดโม้สรรพคุณสินค้าเกินจริงมาก ที่น่าเป็นห่วงกลับมีคนหลงเชื่อไม่น้อย หรืออาจจะพูดได้ว่า หาเงินบาปเพื่อไปสร้างภาพทำบุญ

Let's block ads! (Why?)