Search

เปลือยหัวใจฝันใหญ่ของ "มิว ศุภศิษฏ์" ทุกโมเมนต์สุดฟิน เกิดขึ้นจากข้างใน - ไทยรัฐ

“เราเป็นฟรีแลนซ์ไม่ได้มีค่ายสังกัดเลยจัดทำทีมขึ้นมาดูแลงานเลย ทั้งโปรดักชัน เมเนจเมนต์ พีอาร์ เลยตั้งทีมสตูดิโอ บริหารงานเอง อย่างโปรเจกต์ใหญ่ อควาเรียม แมน พอเป็นของเราเองทำให้เราสามารถนำเสนอความคิดต่างๆและคอยเช็ก QC ในทุกๆขั้นตอนแบบที่แฟนๆไม่ต้องห่วงเลย เพราะผ่านผมมาแล้วทุกขั้นตอน โมเดลนี้ต่างชาติเค้าใช้กันเยอะ ของคนไทยอาจจะยังไม่มี ส่วนใหญ่เป็นระบบค่าย หรือผู้จัดการดูแล และอีกสิ่งที่ตั้งใจคือเราจะมีระบบเมมเบอร์ชิปซึ่งแฟนๆรีเควสต์มานานแล้ว สำหรับบ้านเรายังค่อนข้างใหม่ทั้งผมและทีมเลยไปทำรีเสิร์ชมาว่าเมมเบอร์ชิปของศิลปินต่างประเทศเป็นยังไง แฟนๆในเมมเบอร์ชิปจะได้สิทธิประโยชน์ เช่น จองซิงเกิลอัลบั้มงานต่างๆ คลิปต่างๆเป็นของขวัญแฟนๆเช่นวันเกิดและอื่นๆ”

ใช้พลังเยอะมั้ยเพราะต้องอยู่ในทุกขั้นตอนของทุกงาน?

“ผมเป็นคนที่ค่อนข้างใส่ใจรายละเอียดเยอะ ผมรู้สึกว่าการที่ปล่อยงานไม่ดีออกไปมันเหนื่อยกว่า การที่เรามานั่งรีเช็กผลงานให้มันดีให้มันได้มาตรฐาน เวลางานยังออกมาไม่ดี เราก็จะรู้สึกว่าทำไมไม่ส่งมาให้เช็กก่อน พอเรามีสตูดิโอเองเราก็พร้อมเช็กเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น บางทีเราอาจจะเสียเวลาเพิ่มขึ้นแต่ทำให้คุณภาพงานดีขึ้นเยอะ เราก็ยอม”

โปรเจกต์ต่างๆหลากหลายมาก หมั่นหาความรู้เพิ่มเติมยังไง?

“ผมเป็นคนชอบเรียนรู้อยู่แล้ว ชอบเสพเทรนด์ในอนาคตต่างๆ เลยไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องลำบากที่ต้องคอยคิดนั่นคิดนี่ เป็นคนชอบคิดอยู่แล้ว”

ใน 1 วันสมองผุดไอเดียอะไรตลอดเลยมั้ย?

“แล้วแต่เวลาครับ บ่ายๆ อาจจะมีง่วงๆ (หัวเราะ) บางทีคิดงานอะไรค้างอยู่มีเก็บไปฝันเลยนะแล้วก็มาคิดต่อ อย่างอควาเรียมแมน ที่ฝันมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้วเลยว่าทีเซอร์จะเป็นยังไง”

แฟนคลับยกให้เราเป็นคนดูที่เก่งรอบด้าน?

“ตัวผมคงถูกฝึกมาให้มีระบบความคิดหรือการจัดการข้อมูลเป็นแบบเน็ตเวิร์ก อยากฝากถึงน้องๆด้วยครับ ง่ายสุดคือการทำมายด์แม็ป เวลาเราเรียนรู้อะไรใหม่ๆเรามีแก่นของระบบความคิดแล้ว เราสามารถดึงเข้ากับเรื่องอะไรก็ได้ สามารถเชื่อมโยงได้ การที่เรารู้อะไรหลายๆอย่างผมว่ามันก็เหมาะกับการเป็นนักแสดงนะ เพราะเวลาเราเข้าคาแรกเตอร์ต่างๆ ทำให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพนั้นๆ”

เวลาคนยกให้มิวคือความเพอร์เฟกต์ เรารู้สึกยังไง?

“ไม่จริงหรอกครับ ผมคิดว่าผมเป็นคนที่น่าจะห่างไกลจากคำว่าเพอร์เฟกต์ที่สุด ผมรู้สึกว่ามันมีอะไรให้ผมเรียนรู้อีกมากมาย ผมรู้สึกว่าคำว่าเพอร์เฟกต์มันคือทางตันนะ มันทำให้เราหยุดเรียนรู้ เรารู้สึกว่าเรายังอยากเรียนรู้พัฒนาตัวเองอีก”

ทำงานหลากหลายชอบตัวเองอยู่ในโหมดไหนมากที่สุด?

“ชอบตัวเองในทุกโหมด ผมชอบความเป็นตัวผมเอง แต่ถ้าถามว่ารูปแบบไหนที่ได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเองก็คงเป็นการแสดงบนเวที ตอนที่เราได้ร้องเพลงอยู่ต่อหน้าแฟนๆ เราได้รับส่งพลังกันตรงนั้น มันดีมากๆเรียกว่าเป็นโมเมนต์ที่พิเศษมากๆที่ได้เห็นความสนุกของคนดู”

แฟนๆคอยซัพพอร์ตตลอดด้วยเทรนด์ทวิตเตอร์ต่างๆเสมอเห็นแล้วรู้สึกยังไง?

“ต้องบอกว่าดีใจมากๆและรู้สึกขอบคุณจริงๆครับ ผมก็ขอบคุณแฟนคลับตลอด ขอบคุณที่มีพวกเค้าอยู่ข้างๆเสมอ พอแฟนๆเป็นแบบนี้ทำให้เราอยากสร้างผลงานที่ดีๆยิ่งขึ้นตอบแทนความรักที่มีให้”

แฟนคลับมีหลายประเทศทั่วโลกแบบไม่คาดคิด?

“อย่างตอนแถลงข่าวซิงเกิลนั้นนา มีแฟนๆทั่วโลกดูใน V LIVE 6 แสนคนพร้อมกัน หรือตอนเคาต์ดาวน์ไลฟ์ ก็มีแฟนๆดูทาง V LIVE 1.3 ล้านคน ถือเป็นอันดับ 1 ของการไลฟ์ใน V LIVE ช่วงเคาต์ดาวน์ พอทางทีมงานให้ดูว่ามีคนดูจากประเทศไหนบ้างคือมีทั่วโลกเลย น่ารักมากๆ พอได้เห็นเรารู้สึกว่าเราหยุดนิ่งไม่ได้ มันมีคนทั่วโลกคอยดูเราอยู่ ซึ่งคนทั่วโลกมีหลากหลายความคิด หลากหลายวัฒนธรรม ถ้าเราหยุดความคิดอยู่เท่านี้เราก็ไม่สามารถไปเติมเต็มเค้าได้ เราเลยต้องพัฒนาตัวเองและขยายความสามารถไปเรื่อยๆ และก็มีการได้ช่วยเหลือด้าน CSR เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม การศึกษา เติมตรงนี้ด้วย”

เวลาเริ่มโปรเจกต์ใหม่ๆมา ได้ไปแชร์ หรือปรึกษากลัฟ คู่จิ้นของเราบ้างมั้ย?

“ก็มีเพลง อย่างเวลาออกซิงเกิลก็มีไปให้เค้าฟัง”

เค้าคอมเมนต์อะไรมั้ย?

“เค้าเออออหมดล่ะ ก็มีไปถามบ้าง แต่หลายๆงานมันเป็นความลับของบริษัท อาจจะพูดไม่ได้ เดี๋ยวน้องไปให้สัมภาษณ์หมด (หัวเราะ)”

จากวันแรกที่ได้จับคู่กันจนมาถึงวันนี้ความสนิทมากขึ้นมั้ย?

“เรียกว่าเป็นเพื่อนร่วมงานที่สามารถทำงานได้เข้าใจกันมากขึ้น เพราะบางครั้งเราไม่ต้องพูดกันเยอะ เราก็เข้าใจว่าเราต้องทำยังไงบ้าง ทำให้การทำงานง่ายขึ้นมาก”

เรียกว่ามองตาก็รู้ใจเลยเหรอว่าคิดอะไร?

“ใช่ครับ น้องเป็นคนมองง่าย ไม่ซับซ้อน เราซับซ้อนกว่า”

แล้วเค้ารู้มั้ยว่าเรากำลังคิดอะไร?

“ไม่ค่อยรู้หรอก (หัวเราะ) แต่ถ้าเรื่องจังหวะของการทำงาน เค้าจะรู้เลย”

การที่แฟนๆรักเราทั้งคู่มากขึ้นทุกวัน มีผลกับความสนิทและความสัมพันธ์ของเรามั้ย?

“ไม่เกี่ยวนะครับ เรื่องความสัมพันธ์เป็นเรื่องของคนสองคน ปัจจัยภายนอกอาจจะเกี่ยวเรื่องความรู้สึกบ้าง ตอนนี้หลังจากซีรีส์ซีซัน 2 แต่ละคนก็มีงานของตัวเองชัดเจน แต่ละคนมีความฝันไม่เหมือนกัน เรายอมให้ต่างฝ่ายต่างไปทำงานที่ตัวเองรัก ได้ไปเติบโตไปทางของตัวเอง แต่แฟนๆของเรายังเหนียวแน่น เรามีโอกาสได้ทำงานด้วยกันอยู่แล้ว”

ถ้าเราต้องเล่นซีรีส์วายแต่เล่นกับคนอื่นล่ะ?

“เล่นได้ครับ และผมคิดว่าน้องก็เล่นได้เหมือนกันเพราะในฐานะนักแสดง การที่เรามาหยุดอยู่แค่คนเดียวแสดงว่าคุณไม่สามารถให้เคมีที่ดีกับใครได้ก็คงไม่ใช่ นักแสดงที่ดีคือสามารถเข้าถึงตัวละครได้ทุกบทบาท เล่นกับใครก็ได้ทุกคน”

อยากรู้ว่าทุกครั้งที่เกิดโมเมนต์กับ “กลัฟ” ให้แฟนๆได้ฟินตอนนั้นคิดอะไร?

“ไม่รู้ว่าจะคิดเหมือนคนอื่นรึเปล่า แต่สำหรับเราสองคน โมเมนต์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะเกิดจากเราเอง เราจะไม่ค่อยชอบหรอกถ้าแฟนคลับมาบังคับว่าทำอย่างนี้หน่อย ทำอย่างนั้นหน่อย มันประดิษฐ์ พวกเค้าก็ไม่อยากได้แบบนั้นหรอก ให้เราถ่ายรูปพอเดี๋ยวให้เอง (ยิ้ม) มันคือความเรียลที่เกิดขึ้น ใครขอจะไม่ให้ อยากได้อะไรดีๆต้องรอเอง เดี๋ยวให้เองเพราะมันคือเคมีที่เกิดขึ้นจริง”

วันแรกที่เข้ามากับสิ่งที่ได้รับวันนี้ความมุ่งมั่นตั้งใจของเรามันออกดอกออกผลแค่ไหนแล้ว?

“เรียกว่าทุกอย่างมันเกินกว่าที่เราคาดหวังไว้เยอะมาก ไม่คิดว่าจะมีแฟนๆเยอะมากขนาดนี้ เอาจริงๆตอนแรกที่ผมตั้งชื่อแฟนๆว่ามิวเลี่ยน มาจากมิวกับมิลเลี่ยน เพราะเราคิดว่าในไอจีเรามีคนฟอลล้านนึงคือเท่มากๆแล้ว แต่ตอนนี้ 2 ล้านกว่าแล้ว ที่ผ่านมาเราเรียนรู้จากตัวเอง และคนอื่นมาเยอะ ผมก็เป็นคนหนึ่งนะ ที่รู้ว่าเราทำพลาดมาเยอะและเรียนรู้จากความผิดพลาดตัวเองและเติบโต มีภาพนึงที่ผมฝันมาตั้งแต่เด็กๆและผมว่ามันใกล้เข้ามาแล้ว เป็นภาพผมยืนกลางเวทีและแฟนๆทั้งฮอลล์ร้องเพลงให้ผมครับ”.

(เรื่อง: สุภลัคน์ วุฒิกรีธาชัย)

Let's block ads! (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( เปลือยหัวใจฝันใหญ่ของ "มิว ศุภศิษฏ์" ทุกโมเมนต์สุดฟิน เกิดขึ้นจากข้างใน - ไทยรัฐ )
https://ift.tt/3ssdNSp
บันเทิง

Bagikan Berita Ini

0 Response to "เปลือยหัวใจฝันใหญ่ของ "มิว ศุภศิษฏ์" ทุกโมเมนต์สุดฟิน เกิดขึ้นจากข้างใน - ไทยรัฐ"

Post a Comment

Powered by Blogger.